วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

วัตถุประสงค์ของเกมส์


วัตถุประสงค์ของเกมส์
1.01 กีฬาเบสบอลเป็นเกมส์การแข่งขันระหว่างผู้เล่นสองทีม ทีมละ 9 คน อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้จัดการทีม เล่นในสนามที่จัดไว้เฉพาะ มีระยะทางตามที่กำหนดและมีผู้ตัดสินหนึ่งคน หรือมากกว่าทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน 1.02 วัตถุประสงค์ของแต่ละทีม เพื่อให้ได้รับชัยชนะโดยสามารถทำ run ให้ได้มากกว่าอีกทีมหนึ่ง 1.03 ทีมที่ชนะในการแข่งขัน คือทีมที่สามารถทำ Run ได้มากกว่าอีกทีมหนึ่งเมื่อจบการแข่งขันตามปกติภายใต้การควบคุมกติกานี้ 1.04 สนามแข่งขัน (playing field) จะต้องเป็นตามแผนผังที่ 1,2 และ 3 ข้างล่าง สนามด้านใน (infield) เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านละ 90 ฟุต สนามด้านนอก (outfield) จะเป็นพื้นที่ระหว่างเส้นฟาล์ว (foul line) ทั้งสองเส้นที่ต่อออกไปจากสนามด้านในทั้งสองด้าน (ตามแผนผังที่ 1) ระยะทางจาก โฮมเพลต (home plate) ถึงรั้ว (fence) อัฒจันทร์หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ในเขต fair territory ที่ใกล้ที่สุดไม่น้อยกว่า 250 ฟุต, ถ้าเป็นไปได้ควรจะเป็น 320 ฟุตหรือมากกว่า ตลอดแนว foul line, และ 400 ฟุต หรือมากว่าตรงกึ่งกลางสนามจะเหมาะสมที่สุด สนามส่วน infield จะลาดเอียง แต่เส้นระหว่างเบสและ home plate จะ เป็นระดับเดียวกัน ความลาดเอียงจาก home plate ถึง pitcher plate 10 นิ้ว ความลาดเอียงจากจุด 6 นิ้ว ข้างหน้า pitcher plate ถึง 6 นิ้วข้างหน้า home plate จะเป็น 1 นิ้ว ต่อ 1 ฟุต โดยความลาดเอียงจะต้องเป็นไปโดยสม่ำเสมอไม่ขรุขระหรือเป็นคลื่น บริเวณ infield และ outfield รวมถึงเส้นขอบสนาม(boundary line) ทั้งหมด เป็นส่วนสนาม fair territory ส่วนที่นอกเหนือไปจากนี้เป็น foul territory และจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง การออกแบบสนามจาก home plate ไปที่ pitcher plate ยาวต่อออกไปถึงเบส 2 ควรจะเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศตะวันออก มีข้อแนะนำว่าระยะทางจาก home plate ไปที่ back stop และจาก base line ถึง fence ที่ใกล้ที่สุด ถึงอัฒจันทร์ หรือถึงสิ่งกีดขวางอื่น ๆ จะต้องน้อยกว่า 60 ฟุต จาก foul territory (ดูแผนผังที่ 1) ระยะทางระหว่างเบสเท่ากับ 90 ฟุต โดยจุดตัดของเส้นระหว่างเบสจะทำมุมฉากกัน เส้นทะแยงมุมระหว่าง home plate กับเบส 2 และระหว่างเบส 1 กับเบส 3 เท่ากับ 127 ฟุต 3 3/3 นิ้ว โดยการวัดที่เส้นตัดกัน เขตของแคชเชอร์ (catcher's box) เขตของผู้ตี (batter's boxes) เขตของผู้ฝึกสอน(coaches' boxes) เส้น 3 ฟุต (three feet line) ด้านเบส 1 และเขตคนตีต่อ(next batter's boxes) จะเป็นไปตามแผนผังที่ 1 และ 2 เส้นต่างๆ ที่กำหนดไว้จะต้องตีด้วยฝุ่นสีขาว เส้นตัดระหว่างหญ้า (grass line) ตามที่แสดงไว้ในแผนผัง แต่ละสนามสามารถกำหนดขนาดและรูปร่างของหญ้าได้เอง หมายเหตุ : ก. การสร้างสนามของสโมสรอาชีพ หลังวันที่ 1 มิถุนายน 1958 ระยะทางจาก home plate ถึง fence ที่ใกล้ที่สุด อัฒจันทร์ หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ ด้านข้างสนามทั้งสองด้านอย่างน้อย 325 ฟุต และจาก home plate ถึง fence ตรงจุดกึ่งกลางสนามอย่างน้อย 400 ฟุต 1.05 โฮมเพลต (home plate) เป็นรูปห้าเหลี่ยมทำด้วยยางสีขาว โดยมีขนาดตามแผนผังที่ 4 ก. แผนผังที่ 4 ก. แผนผังที่ 4 ข. การวาง home plate ด้านตัดมุมจะวางตรงแนวเส้นตัดระหว่างเส้นเบส 1 และเส้นเบส 3 โดยหันด้าน 17 นิ้ว ไปหา pitcher plate โดย home plate จะต้องยึดติดไว้กับพื้น 1.06 เบส(base) เบสที่1 ที่ 2 ที่ 3 ทำด้วยถุงผ้าใบสีขาว สี่เหลี่ยมด้านละ 15 นิ้ว หนาไม่น้อยกว่า 3 นิ้ว และไม่เกิน 5 นิ้ว ภายในถุงบรรจุวัสดุที่นิ่ม ดูแผนผังที่ 4ข. โดยมีความทนทาน ยึดติดไว้กับพื้นตามแผนผังหมายเลข 2 เบส 1 และเบส 3 จะอยู่ด้านในสนาม ส่วนเบส 2 นจะอยู่บนกึ่งกลางของจุดตัดของเส้น 1.07 พิชเชอร์เพลต (pitcher plate) เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 6 x 24 นิ้ว ทำด้วยยางสีขาว การวาง pitcher plate ดูตามแผนผังที่ 1 และ 2 ระยะห่างจากมุม home plate ถึงด้านหน้า pitcher plate เท่ากับ 60 ฟุต 6 นิ้ว 1.08 ม้านั่งผู้เล่น (player's benches) จะจัดไว้ทั้งสองด้านของสนาม bench จะตั้งห่างจาก base line ไม่น้อยกว่า 25 ฟุต โดยกำหนดเป็นเขตที่พักนักกีฬา (dugout) ไว้โดยเฉพาะ และปิดด้านหลังและด้านข้างของเขตที่พักนี้ 1.09 ลูกบอล (the ball) ลูกบอลตามมาตรฐานทำด้วยหนังที่มีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 5 ออนซ์ และไม่เกิน 5 ? ออนซ์ มีเส้นรอนวงไม่น้อยกว่า 9 นิ้ว ไม่เกิน 9 ? นิ้ว 1.10 a) ไม้ตี (the bat) ไม้ตีจะต้องทำจากวัสดุผิวเรียบท่อนเดียวทรงกลมยาวทำด้วยไม้ (หรือโลหะ) ส่วนที่ใหญ่ที่สุดเส้นรอบวงไม่เกิน 2 ? นิ้ว ยาวไม่เกิน 42 นิ้ว หมายเหตุ : ไม่อนุญาตให้ใช้ไม้ตีที่เป็นแผ่น หรือไม้ที่กำลังทดลองจนกว่าโรงงานจะได้รับรองจากคณะกรรมการควบคุมกติกาให้ผลิตได้ b) สำหรับด้ามจับยาวไม่เกิน 18 นิ้ว จากด้านปลายเล็กจะปิดด้วยเทปหรือยางหรือวัสดุอื่นได้ ไม้ที่ใช้วัสดุต่าง ๆ ที่ติดเลย 18 นิ้ว ไม่อนุญาตให้ใช้ในการแข่งขัน หมายเหตุ : ถ้าผู้ตัดสินพบว่าไม้ไม่เป็นไปตามข้อ b) ในระหว่างการใช้ไม้ในการแข่งขัน หรือหลังการใช้ไม้ไปแล้วในการแข่งขันจะไม่มีผลถึงทำให้ผู้เล่น out หรือถูกไล่ออก c) ไม่ให้ใช้ไม้ตีที่เป็นสีในการแข่งขันอาชีพ นอกจากว่าได้รับรองจากคณะกรรมการควบคุมกติกา 1.11 a) 1. ผู้เล่นในทีมเดียวกันทุกคนต้องสวมชุด สี ขลิบหรือแบบเหมือนกันและชุดผู้เล่นทุกคนในทีมมีหมายเลขด้านหลังขนาด ไม่ต่ำกว่า 6 นิ้ว 2. ส่วนของเสื้อตัวในที่ยื่นออกมาภายนอก จะต้องเป็นสีเดียวกันทั้งทีมและไม่มีลาย ผู้เล่นอื่น ๆ นอกจาก pitcher จะมีหมายเลข ตัวหนังสือ แถบติดอยู่ที่แขนของเสื้อตัวในก็ได้ 3. ผู้เล่นที่มีชุดไม่เหมือนกันของทีมห้ามเข้าร่วมการแข่งขัน b) สมาคมอาจกำหนดให้จัดในสิ่งต่อไปนี้ 1. แต่ละทีมจะต้องจัดชุดเฉพาะทีมไว้ตลอดเวลา หรือ 2. แต่ละทีมจัดชุดแข่งขันไว้ 2 ชุด สีขาวสำหรับการเป็นทีมเหย้า และสีอื่น ๆ สำหรับทีมตรงข้าม c) 1. ความยาวของแขนเสื้อขึ้นอยู่กับขนาดของผู้เล่นแต่ละคน แต่ความยาวของแขนเสื้อแต่ละข้างจะต้องยาวเท่ากัน 2. ผู้เล่นจะต้องไม่ใส่เสื้อตัวในที่แขนขาด d) ผู้เล่นต้องไม่ติดเทป หรือวัสดุอื่นใดที่สีแตกต่างออกไปจากชุดแข่งขัน e) แต่ละส่วนของชุดแข่งขันจะต้องไม่มีรูป baseball ติดอยู่ f) ห้ามติดกระดุมแก้วและโลหะที่สะท้อนแสงในชุดแข่งขัน g) ผู้เล่นต้องไม่ติดสิ่งต่างๆ ที่เส้นหรือปลายรองเท้า นอกจากพื้นรองเท้าหรือแผ่นที่ปลายรองเท้าตาม ปรกติ รองเท้าที่มีปุ่มคล้ายกอล์ฟ หรือรองเท้าวิ่งห้ามใส่ลงแข่งขัน h) ไม่ว่าส่วนใดของชุดแข่งขันต้องไม่ติดโฆษณา หรือออกแบบเพื่อการโฆษณา i) สมาคม อาจจะกำหนดชุดแข่งขันของทีมสมาชิก รวมทั้งชื่อผู้เล่นที่ติดไว้ด้านหลัง ชื่ออื่นๆ นอกจากชื่อผู้เล่นจะต้องได้รับการรับรองจากสมาคม ชุดแข่งขันทั้งหมดของแต่ละทีมจะต้องมีชื่อผู้เล่น 1.12 ผู้เล่น catcher ต้องสวมถุงมือชนิด mitt 1.13 ผู้เล่นเบส 1 อาจสวมถุงมือชนิด glove หรือ mitt ของเบส 1 ที่มีความยาวไม่เกิน 12 นิ้ว และกว้างไม่เกิน 8 นิ้ว โดยวัดจากโคนนิ้วหัวแม่มือถึงขอบด้านนอก 1.14 ผู้เล่นอื่น ๆ นอกจาก catcher และ เบส 1 จะสวมถุงมือชนิด glove ที่ยาวไม่เกิน 12 นิ้ว และกว้างไม่เกิน 7 ? นิ้ว โดยวัดจากนิ้วหัวแม่มือถึงขอบด้านนอก(ใช้ mitt ของ catcher และ เบส 1 ไม่ได้) 1.15 a) ถุงมือของ pitcher จะต้องเป็นสีเดียวกัน โดยต้องไม่เป็นสีขาวหรือสีเทา b) ผู้เล่น pitcher จะต้องไม่นำวัสดุอื่นใดที่ทำให้สีถุงมือแตกต่างไปจากสีเดิม 1.16 ผู้เล่นในฝ่ายรุกที่เป็นผู้ตี (batter) ผู้เล่นบนเบส (runner) และผู้ตีคนต่อไป จะต้องสวมหมวกป้องกันศีรษะ (helmet) ผู้เล่น catcher ขณะเป็นผ่ายรับจะต้องสวม catcher's helmet ผู้เล่นทุกคนที่เข้าแข่งขันในระดับชาติ ขณะเป็น batter จะต้องสวม helmet ชนิดที่มีสองหู ถ้าผู้ตัดสอนสังเกตเห็นว่ามีการละเมิดกติกาข้อนี้ จะต้องควบคุมให้เป็นไปตามกติกา ถ้าหากผู้เล่นไม่ปฏิบัติตาม ผู้ตัดสินสามารถไล่ผู้เล่นออกจากการแข่งขันได้ หมายเหตุ : รูปประกอบข้อที่ 1.05 วัตถุประสงค์ของเกมส์ 1.01 กีฬาเบสบอลเป็นเกมส์การแข่งขันระหว่างผู้เล่นสองทีม ทีมละ 9 คน อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้จัดการทีม เล่นในสนามที่จัดไว้เฉพาะ มีระยะทางตามที่กำหนดและมีผู้ตัดสินหนึ่งคน หรือมากกว่าทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน 1.02 วัตถุประสงค์ของแต่ละทีม เพื่อให้ได้รับชัยชนะโดยสามารถทำ run ให้ได้มากกว่าอีกทีมหนึ่ง 1.03 ทีมที่ชนะในการแข่งขัน คือทีมที่สามารถทำ Run ได้มากกว่าอีกทีมหนึ่งเมื่อจบการแข่งขันตามปกติภายใต้การควบคุมกติกานี้ 1.04 สนามแข่งขัน (playing field) จะต้องเป็นตามแผนผังที่ 1,2 และ 3 ข้างล่าง สนามด้านใน (infield) เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านละ 90 ฟุต สนามด้านนอก (outfield) จะเป็นพื้นที่ระหว่างเส้นฟาล์ว (foul line) ทั้งสองเส้นที่ต่อออกไปจากสนามด้านในทั้งสองด้าน (ตามแผนผังที่ 1) ระยะทางจาก โฮมเพลต (home plate) ถึงรั้ว (fence) อัฒจันทร์หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ในเขต fair territory ที่ใกล้ที่สุดไม่น้อยกว่า 250 ฟุต, ถ้าเป็นไปได้ควรจะเป็น 320 ฟุตหรือมากกว่า ตลอดแนว foul line, และ 400 ฟุต หรือมากว่าตรงกึ่งกลางสนามจะเหมาะสมที่สุด สนามส่วน infield จะลาดเอียง แต่เส้นระหว่างเบสและ home plate จะ เป็นระดับเดียวกัน ความลาดเอียงจาก home plate ถึง pitcher plate 10 นิ้ว ความลาดเอียงจากจุด 6 นิ้ว ข้างหน้า pitcher plate ถึง 6 นิ้วข้างหน้า home plate จะเป็น 1 นิ้ว ต่อ 1 ฟุต โดยความลาดเอียงจะต้องเป็นไปโดยสม่ำเสมอไม่ขรุขระหรือเป็นคลื่น บริเวณ infield และ outfield รวมถึงเส้นขอบสนาม(boundary line) ทั้งหมด เป็นส่วนสนาม fair territory ส่วนที่นอกเหนือไปจากนี้เป็น foul territory และจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง การออกแบบสนามจาก home plate ไปที่ pitcher plate ยาวต่อออกไปถึงเบส 2 ควรจะเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศตะวันออก มีข้อแนะนำว่าระยะทางจาก home plate ไปที่ back stop และจาก base line ถึง fence ที่ใกล้ที่สุด ถึงอัฒจันทร์ หรือถึงสิ่งกีดขวางอื่น ๆ จะต้องน้อยกว่า 60 ฟุต จาก foul territory (ดูแผนผังที่ 1) ระยะทางระหว่างเบสเท่ากับ 90 ฟุต โดยจุดตัดของเส้นระหว่างเบสจะทำมุมฉากกัน เส้นทะแยงมุมระหว่าง home plate กับเบส 2 และระหว่างเบส 1 กับเบส 3 เท่ากับ 127 ฟุต 3 3/3 นิ้ว โดยการวัดที่เส้นตัดกัน เขตของแคชเชอร์ (catcher's box) เขตของผู้ตี (batter's boxes) เขตของผู้ฝึกสอน(coaches' boxes) เส้น 3 ฟุต (three feet line) ด้านเบส 1 และเขตคนตีต่อ(next batter's boxes) จะเป็นไปตามแผนผังที่ 1 และ 2 เส้นต่างๆ ที่กำหนดไว้จะต้องตีด้วยฝุ่นสีขาว เส้นตัดระหว่างหญ้า (grass line) ตามที่แสดงไว้ในแผนผัง แต่ละสนามสามารถกำหนดขนาดและรูปร่างของหญ้าได้เอง หมายเหตุ : ก. การสร้างสนามของสโมสรอาชีพ หลังวันที่ 1 มิถุนายน 1958 ระยะทางจาก home plate ถึง fence ที่ใกล้ที่สุด อัฒจันทร์ หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ ด้านข้างสนามทั้งสองด้านอย่างน้อย 325 ฟุต และจาก home plate ถึง fence ตรงจุดกึ่งกลางสนามอย่างน้อย 400 ฟุต 1.05 โฮมเพลต (home plate) เป็นรูปห้าเหลี่ยมทำด้วยยางสีขาว โดยมีขนาดตามแผนผังที่ 4 ก. แผนผังที่ 4 ก. แผนผังที่ 4 ข. การวาง home plate ด้านตัดมุมจะวางตรงแนวเส้นตัดระหว่างเส้นเบส 1 และเส้นเบส 3 โดยหันด้าน 17 นิ้ว ไปหา pitcher plate โดย home plate จะต้องยึดติดไว้กับพื้น 1.06 เบส(base) เบสที่1 ที่ 2 ที่ 3 ทำด้วยถุงผ้าใบสีขาว สี่เหลี่ยมด้านละ 15 นิ้ว หนาไม่น้อยกว่า 3 นิ้ว และไม่เกิน 5 นิ้ว ภายในถุงบรรจุวัสดุที่นิ่ม ดูแผนผังที่ 4ข. โดยมีความทนทาน ยึดติดไว้กับพื้นตามแผนผังหมายเลข 2 เบส 1 และเบส 3 จะอยู่ด้านในสนาม ส่วนเบส 2 นจะอยู่บนกึ่งกลางของจุดตัดของเส้น 1.07 พิชเชอร์เพลต (pitcher plate) เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 6 x 24 นิ้ว ทำด้วยยางสีขาว การวาง pitcher plate ดูตามแผนผังที่ 1 และ 2 ระยะห่างจากมุม home plate ถึงด้านหน้า pitcher plate เท่ากับ 60 ฟุต 6 นิ้ว 1.08 ม้านั่งผู้เล่น (player's benches) จะจัดไว้ทั้งสองด้านของสนาม bench จะตั้งห่างจาก base line ไม่น้อยกว่า 25 ฟุต โดยกำหนดเป็นเขตที่พักนักกีฬา (dugout) ไว้โดยเฉพาะ และปิดด้านหลังและด้านข้างของเขตที่พักนี้ 1.09 ลูกบอล (the ball) ลูกบอลตามมาตรฐานทำด้วยหนังที่มีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 5 ออนซ์ และไม่เกิน 5 ? ออนซ์ มีเส้นรอนวงไม่น้อยกว่า 9 นิ้ว ไม่เกิน 9 ? นิ้ว 1.10 a) ไม้ตี (the bat) ไม้ตีจะต้องทำจากวัสดุผิวเรียบท่อนเดียวทรงกลมยาวทำด้วยไม้ (หรือโลหะ) ส่วนที่ใหญ่ที่สุดเส้นรอบวงไม่เกิน 2 ? นิ้ว ยาวไม่เกิน 42 นิ้ว หมายเหตุ : ไม่อนุญาตให้ใช้ไม้ตีที่เป็นแผ่น หรือไม้ที่กำลังทดลองจนกว่าโรงงานจะได้รับรองจากคณะกรรมการควบคุมกติกาให้ผลิตได้ b) สำหรับด้ามจับยาวไม่เกิน 18 นิ้ว จากด้านปลายเล็กจะปิดด้วยเทปหรือยางหรือวัสดุอื่นได้ ไม้ที่ใช้วัสดุต่าง ๆ ที่ติดเลย 18 นิ้ว ไม่อนุญาตให้ใช้ในการแข่งขัน หมายเหตุ : ถ้าผู้ตัดสินพบว่าไม้ไม่เป็นไปตามข้อ b) ในระหว่างการใช้ไม้ในการแข่งขัน หรือหลังการใช้ไม้ไปแล้วในการแข่งขันจะไม่มีผลถึงทำให้ผู้เล่น out หรือถูกไล่ออก c) ไม่ให้ใช้ไม้ตีที่เป็นสีในการแข่งขันอาชีพ นอกจากว่าได้รับรองจากคณะกรรมการควบคุมกติกา 1.11 a) 1. ผู้เล่นในทีมเดียวกันทุกคนต้องสวมชุด สี ขลิบหรือแบบเหมือนกันและชุดผู้เล่นทุกคนในทีมมีหมายเลขด้านหลังขนาด ไม่ต่ำกว่า 6 นิ้ว 2. ส่วนของเสื้อตัวในที่ยื่นออกมาภายนอก จะต้องเป็นสีเดียวกันทั้งทีมและไม่มีลาย ผู้เล่นอื่น ๆ นอกจาก pitcher จะมีหมายเลข ตัวหนังสือ แถบติดอยู่ที่แขนของเสื้อตัวในก็ได้ 3. ผู้เล่นที่มีชุดไม่เหมือนกันของทีมห้ามเข้าร่วมการแข่งขัน b) สมาคมอาจกำหนดให้จัดในสิ่งต่อไปนี้ 1. แต่ละทีมจะต้องจัดชุดเฉพาะทีมไว้ตลอดเวลา หรือ 2. แต่ละทีมจัดชุดแข่งขันไว้ 2 ชุด สีขาวสำหรับการเป็นทีมเหย้า และสีอื่น ๆ สำหรับทีมตรงข้าม c) 1. ความยาวของแขนเสื้อขึ้นอยู่กับขนาดของผู้เล่นแต่ละคน แต่ความยาวของแขนเสื้อแต่ละข้างจะต้องยาวเท่ากัน 2. ผู้เล่นจะต้องไม่ใส่เสื้อตัวในที่แขนขาด d) ผู้เล่นต้องไม่ติดเทป หรือวัสดุอื่นใดที่สีแตกต่างออกไปจากชุดแข่งขัน e) แต่ละส่วนของชุดแข่งขันจะต้องไม่มีรูป baseball ติดอยู่ f) ห้ามติดกระดุมแก้วและโลหะที่สะท้อนแสงในชุดแข่งขัน g) ผู้เล่นต้องไม่ติดสิ่งต่างๆ ที่เส้นหรือปลายรองเท้า นอกจากพื้นรองเท้าหรือแผ่นที่ปลายรองเท้าตาม ปรกติ รองเท้าที่มีปุ่มคล้ายกอล์ฟ หรือรองเท้าวิ่งห้ามใส่ลงแข่งขัน h) ไม่ว่าส่วนใดของชุดแข่งขันต้องไม่ติดโฆษณา หรือออกแบบเพื่อการโฆษณา i) สมาคม อาจจะกำหนดชุดแข่งขันของทีมสมาชิก รวมทั้งชื่อผู้เล่นที่ติดไว้ด้านหลัง ชื่ออื่นๆ นอกจากชื่อผู้เล่นจะต้องได้รับการรับรองจากสมาคม ชุดแข่งขันทั้งหมดของแต่ละทีมจะต้องมีชื่อผู้เล่น 1.12 ผู้เล่น catcher ต้องสวมถุงมือชนิด mitt 1.13 ผู้เล่นเบส 1 อาจสวมถุงมือชนิด glove หรือ mitt ของเบส 1 ที่มีความยาวไม่เกิน 12 นิ้ว และกว้างไม่เกิน 8 นิ้ว โดยวัดจากโคนนิ้วหัวแม่มือถึงขอบด้านนอก 1.14 ผู้เล่นอื่น ๆ นอกจาก catcher และ เบส 1 จะสวมถุงมือชนิด glove ที่ยาวไม่เกิน 12 นิ้ว และกว้างไม่เกิน 7 ? นิ้ว โดยวัดจากนิ้วหัวแม่มือถึงขอบด้านนอก(ใช้ mitt ของ catcher และ เบส 1 ไม่ได้) 1.15 a) ถุงมือของ pitcher จะต้องเป็นสีเดียวกัน โดยต้องไม่เป็นสีขาวหรือสีเทา b) ผู้เล่น pitcher จะต้องไม่นำวัสดุอื่นใดที่ทำให้สีถุงมือแตกต่างไปจากสีเดิม 1.16 ผู้เล่นในฝ่ายรุกที่เป็นผู้ตี (batter) ผู้เล่นบนเบส (runner) และผู้ตีคนต่อไป จะต้องสวมหมวกป้องกันศีรษะ (helmet) ผู้เล่น catcher ขณะเป็นผ่ายรับจะต้องสวม catcher's helmet ผู้เล่นทุกคนที่เข้าแข่งขันในระดับชาติ ขณะเป็น batter จะต้องสวม helmet ชนิดที่มีสองหู ถ้าผู้ตัดสอนสังเกตเห็นว่ามีการละเมิดกติกาข้อนี้ จะต้องควบคุมให้เป็นไปตามกติกา ถ้าหากผู้เล่นไม่ปฏิบัติตาม ผู้ตัดสินสามารถไล่ผู้เล่นออกจากการแข่งขันได้ หมายเหตุ : รูปประกอบข้อที่ 1.05 ที่มา 2.sat.or.th/sportslearning/index3.asp?clicktype=2&senttext=64&pageno=

ความหมายและศัพท์เฉพาะของกีฬาเบสบอล


ความหมายศัพท์เฉพาะของเบสบอล
ADJUDGE คือ คำตัดสินของผู้ตัดสิน APPEAL คือ การกระทำของฝ่ายรับที่เรียกร้องสิทธิ์จากการทำผิดกติ กาของฝ่ายรุก BALK คือ การทำผิดกฎของ pitcher โดยมี runner อยู่ที่เบส มี ผลให้ runner ได้ advance 1เบส BALL คือ ลูกบอลที่pitchไม่เข้าstrikezoneและผู้ตีไม่ตีถ้าลูกบอล pitchลงพื้นก่อนและกระดอนไปเข้าstrike zoneก็ถือว่า เป็นballถ้าPitchถูก batterและrunner BASE คือ จุดแต่ละจุดทั้ง 4 จุดที่runnerจะต้องแตะเพื่อทำ run BASE COACH คือ สมาชิกของทีมที่แต่งกายชุดเบสบอล ยืนอยู่ใน coach box ทางด้าน เบส1หรือเบส3เพื่อทำหน้าที่ควบคุม batter และ runner BASE ON BALL คือ batter ได้รับสิทธิ์เข้าครอบครองเบส 1 จากการได้รับ pitchเป็น 4 ball ในขณะที่จะตี BATTER คือ ผู้เล่นผ่ายรุกที่เข้ามายืนอยู่ใน batter box BATTER-RUNNER คือ batter ที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นการตี และกำลังวิ่งเพื่อเข้า ครอบครองเบส 1 โดยมีระยะเวลาตั้งแต่หลังจากการตี จนกว่าจะถูกทำ out หรือ จนกว่า จะเป็น runner BATTER'S BOX คือ บริเวณที่กำหนดให้ผู้เล่นฝ่ายรุกเข้าไปยืนตลอดเวลาที่ ตี BATTERY คือ ผู้เล่น Pitcher และ catcher BENCHORDUGOUT คือ ที่พักที่จัดไว้ให้ผู้เล่นผู้เล่นสำรองและสมาชิกของทีมที่ แต่งกายอยู่ในชุดแข่งขันขณะที่ไม่ได้อยู่ในสนามแข่ง ขัน BUNT คือ การตีโดยไม่ได้ swing แต่เป็นการตั้งใจเอาไม้ตี กระทบลูกบอลช้า ๆภายในสนาม CALLED GAME คือ การขานจบการแข่งขัน โดย Umpire-In-Chief ด้วย เหตุผลต่างๆ CATCH คือ การรับลูกบอลที่ลอยอยู่ในอากาศของผู้เล่นฝ่ายรับด้วย มือหรือถุงมือไว้ได้อย่างมั่นคง ไม่ถือว่าเป็นการรับ fly ball ถ้าลูกที่ลอยในอากาศถูกผู้เล่นฝ่ายรับอีกคนรับลูก บอลได้และทำลูกหล่นขณะอยู่ในลักษณะขว้างก็ให้ถือ ว่าเป็นการรับลูกได้แล้วจะถือว่าเป็นการรับลูกที่ สมบูรณ์ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับถือลูกบอลไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง นานพอและเห็นวาสามารถควบคุมลูกบอลได้ และไม่ ได้เจตนาปล่อยให้ลูกบอลหล่น ผู้เล่นจะต้องไม่ใช้ หมวก เครื่องป้องกัน กระเป๋าหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของ เครื่องแต่งกายรับบอลไม่ถือว่าเป็นการครอบครองลูก บอลเมื่อทันทีที่สัมผัสลูกบอลและเกิดผลเล่นชนกันเอง หรือชนกำแพงหรือล้มลง และเป็นผลให้ลูกบอลหล่น จากมือ การครอบครองบอลที่ถูกต้องคือ ผู้เล่นฝ่ายรับ ถือลูกบอลไว้ได้ถึงแม้ว่าจะกระดอนหรือผู้เล่นคนอื่น ๆ ถือลูกบอลไว้ได้ก่อนที่ลูกบอลจะตกถึงพื้น runner สามารถ ออกจากเบสได้เมื่อลูกบอลถูกผู้เล่นคนแรก CATCHER คือ ผู้เล่นฝ่ายรับที่ยืนอยู่ในตำแหน่งหลัง home plate CATCHER'S BOX คือ บริเวณที่ catcher จะต้องยืนอยู่จนกว่า pitcher ได้ ปล่อยลูกบอล CLUB คือองค์กรที่เป็นสมาชิกของ สมาคม โดยมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลรวมกันเป็นทีม ทำหน้าที่จัดสนามและอุปกรณ์การแข่งขัน COACH คือ สมาชิกของทีมที่แต่งกายชุดเบสบอล แต่งตั้งโดยผู้จัดการ ทีมให้ทำหน้าที่ตามที่กำหนด เป็นต้นว่าทำหน้าที่ base coach DEAD BALL คือ ลูกบอลที่ไม่อยู่ในการเล่น เนื่องจากหยุดการเล่นชั่วคราว ตามกติกา DEFENSE คือ ทีมหรือผู้ล่นอื่น ๆ ของทีมที่เป็นฝ่ายรับ DOUBLE-HEADER คือ การแข่งขันตามปรกติ 2 เกมส์ติดต่อกัน DOUBLE PLAY คือ การเล่นฝ่ายรับที่ put out ผู้เล่นฝ่ายรุก 2 คนได้จาก การเล่นที่ต่อเนื่องกัน โดยไม่มี error ระหว่าง out ทั้ง สอง เช่น a) ผู้เล่นถูก put out ทั้ง 2 คนจาก force play b) ผู้เล่นถูก put out 2 คนที่ไม่ใช่ force play ทั้งคู่ เช่น put out คนแรกจากforce play และ put out คนที่ 2 จากการแตะตัว runner FAIR BALL คือ การตีลูกบอลเข้าไปใน fair ground ระหว่าง home plate และ เบส 1 หรือระหว่าง home plate และเบส 3 - บนหรือเหนื fair territory เมื่อกระดอนไปลงที่ outfield ผ่านเบส 1 หรือเบส 3 หรือถูกเบส 1 เบส 2 หรือเบส 3 - หรือที่ตกครั้งแรกใน fair territory หลังเบส 1 หรือ เบส 3 - หรือขณะอยู่บนหรือเหนือ fair territory ถูกผู้เล่นหรือผู้ ตัดสิน - หรือขณะอยู่เหนือ fair territory ลอยออกไปนอกสนาม แข่งขัน - ถ้าลูก fly ball ตกลงเบส 1 หรือเบส 3 แล้วกระดอน เข้าไปในเขต foul territory ถือว่าเป็น fair ball - ลูก fair fly จะพิจารณาจากตำแหน่งของลูกบอลและ foul line ไม่ว่าผู้เล่นจะอยู่ใน fair territory หรือ foul territory ในขณะที่สัมผัสลูกบอล - ควรจะปักเสาฟาล์วที่ fence line ด้วยการขึงลวด ตาข่ายยาวตลอดแนว fair territory เหนือ fence เพื่อ ช่วยให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้แม่นยำมากขึ้น - ถ้าลูกลงใน infield ระหว่างhome plate และเบส 1 หรือเบส 3 แล้วกระดอนไปเขต foul line ทั้งหมดอยู่ใน fair territory FIELDER คือ ผู้เล่นฝ่ายรับ FIELDER'S CHOICE คือ การเลือกเล่นของฝ่ายรับที่จะทำ put out กับ runner เมื่อรับลูกได้ แทนที่จะเล่นกับ batter runner เพื่อทำ out ที่เบส 1 นอกจากนี้ยังใช้ กับผู้บันทึกดังนี้ a) เพื่อนับจำนวนครั้งของ batter runner ที่สามารถ ครอบครองเบส ข้างหน้าได้ 1 เบสหรือมากกว่าเมื่อ ฝ่ายรับพยามยามที่จะ put out ผู้เล่น runner ที่อยู่ ข้างหน้า b) เพื่อนับจำนวนเบสที่ runner เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ (นอกจากด้วยวิธีการขโมยเบสหรือความผิดพลาดของ ฝ่ายรับ) ขณะที่ฝ่ายรับพยายาม put outที่ runner คนอื่น ๆ c) เพื่อนับจำนวนเบสที่ runner เคลื่อนที่ไปข้างหน้า จากการขโมยเบส จากสาเหตุที่ฝ่ายรับไม่พยายาม ป้องกันการขโมย FLY BALL คือ ลูกที่ตีและลอยสูงขึ้นไปในอากาศ FORCE PLAY คือ การที่ลูก runner ต้องเสียสิทธิ์การครอบครองเบสเนื่อง จาก batter กลายเป็น runner - มักจะเกิดความสับสนเสมอในการเล่น force play โดยสถานการณ์ทำให้สภาพ force play หมดไป เช่น มี runner อยู่ที่เบส 1 ทำให้ batter runner ต้อง out ทำให้สภาพ force play ที่เบส 2 หมดไป runner จะ ต้องถูกใช้การแตะตัวจึงจะ out e ก่อนฝ่ายรับขว้างลูก ถึงเบส 1 เพื่อแตะเบส 1 out ( เป็น out 3) เนื่องจาก runner ที่เบส 1 ออกจากเบสก่อน fly ball และกลับ เบส 1 ไม่ทัน ในความเห็นของผู้ตัดสิน runner ที่เบส 3 แตะ home plate ก่อนลูกบอลถึงผู้เล่นเบส 1 ใน กรณีนี้นับ run FORFEITED GAME คือ การประกาศจบการแข่งขันด้วย Umpire-I - ในกรณีนี้ก็ไม่ถือว่าเป็น force out (มี 1 out) runner อยู่ที่เบส 1 และเบส 3 (batter fly out เป็น out ที่ 2) runner ที่เบส 3 tag up แล้วเข้า แตะ home platn - Chief ด้วยความเต็มใจของฝ่ายรุกด้วยคะแนน 9 ต่อ 0 จากการเล่นที่ละเมิดกติกาของอีกฝ่ายหนึ่ง FOUL BALL คือ ลูกบอลที่ตีตกเข้าไปใน foul territory ระหว่าง home plate กับเบส 1 หรือระหว่างhome plate กับเบส 3 - หรือที่กระดอนผ่านบนหรือเหนือเบส - หรือเบส 3 เข้า ไปในเขต foul territory - หรือครั้งแรกตกในเขต foul territory เลยเบส 3 หรือ เบส 1 - หรือขณะอยู่บนหรือเหนือ foul territory ถูกตัวผู้เล่น ผู้ตัดสินหรือสิ่งของภายนอกอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พื้นโดย ธรรมชาติ - foul fly จะพิจารณาจากตำแหน่งลูกบอลและ foul line รวมทั้งเสาที่ปักบน foul line ไม่ว่าผู้รับจะอยู่บน foul territory หรือ fair territory ขณะที่สัมผัสลูกบอล - ลูกบอลที่ถูกตีเข้าไปในสนามไม่ได้ถูกตัวfielder, pitcher plate และกระดอนไปใน foul territory ระหว่าง home plate กับเบส 1 หรือhome plate กับ เบส 3 เป็น foul ball - หรือถ้าลูกบอลพุ่งเข้าไปใน foul territory หรือถูกผู้ เล่นบน foul territory จะเป็น foul ball FOUL TERRITORY คือ ส่วนของสนามแข่งขันที่อยู่นอกเส้นเบส 1 และเส้นเบส 3 ยาวต่อไปถึง fence และแนวตั้งฉาก ขึ้นไปในอากาศ FOUL TIP คือ ลูกที่ถูกตีพุ่งตรงจากไม้ตีไปที่ catcher และสามารถรับ ลูกไว้ได้ไม่ถือว่าเป็น foul tip นอกจาก catcher จะรับ ลูกได้ และนับเป็น strike ลูก foul tip ถือว่าลูกอยู่ในการเล่น GROUND BALL คือ ลูกบอลที่ถูกตีกลิ้งหรือกระดอนอยู่บนพื้น HOME TEAM คือ ทีมที่เป็นเจ้าของสนามแข่งขัน หรือถ้าเป็นสนามกลาง ทั้งสองทีมจะตกลงกันเอง ILLEGAL คือ สิ่งที่ขัดแย้งกับกติกานี้ ILLEGAL PITCH คือ a) การ pitch ไปยัง batter เมื่อเท้าที่หมุนของ pitcher ไม่ได้แตะ pitcher plate b) การ pitch กลับอย่างเร็วในขณะที่ runner อยู่บน เบส c) illegal pitch จะเป็น balk INFIELDER คือ ผู้เล่นฝ่ายรับที่มีตำแหน่งใน infield INFIELD FLY คือ ลูก fair fly ball ซึ่งสามารถรับไว้ได้โดยง่ายจากผู้เล่น infield ขณะมี runner อยู่ที่เบส 1 และเบส 2 หรือ เบส 1 เบส 3 และเบส 3 ก่อน 2 out ถ้า catcher, pitcher และ outfielder ที่อยู่ในบริเวณ infield ให้รวมอยู่ในผู้เล่น infield ตามกติกานี้ด้วย (ลูก ลอยดังกล่าวไม่รวมลูก line drive หรือการตั้งใจ bunt) เมื่อเห็นว่าลูกบอลที่ตีเป็น infieldfly ผู้ตัดสินจะต้องขาน infield fly ทันทีเพื่อประโยชน์ของ runner ถ้าลูกบอลอยู่ ใกล้ base line ผู้ตัดสินจะขาน infield fly if fair Infield fly ถือว่าลูกอยู่ในการเล่น runner อาจจะเสี่ยง ที่จะ advance หรือคอยทันทีที่ฝ่ายรับสัมผัสลูกบอลเช่น เดียวกับ fly ball ถ้าผู้ตัดสินขาน infield fly และฝ่ายรับ ปล่อยให้ลูกบอลกระดอนเป็นลูก foul ก่อนผ่าน เบส 1 หรือ เบส 3 ให้ถือว่าเป็น foul ball ถ้า ผู้ตัดสินขาน infield fly และฝ่ายรับปล่อยให้ลูกบอลตกไม่ถึงพื้นนอก base line และกระดอนเป็นลูก fair ก่อนผ่าน เบส 1 หรือ เบส 3 ให้ถือว่าเป็น infield fly IN FLIGHT คือ ลูกบอลที่เกิดจากการตี ขว้าง หรือ pitch โดยลูกบอลไม่ ได้ถูกพื้นหรือสิ่งอื่นใดนอกจาก fielder IN JEOPARDY เป็นคำที่ใช้เพื่อบอกว่าลูกบอลกำลังอยู่ในการเล่นที่ผู้เล่น อาจถูก put out INNING คือ xxxส่วนของการแข่งขันที่สองทีมผลัดกันเป็นฝ่ายรุก และ ฝ่ายรับซึ่งแต่ละทีมจะ out 3 คน โดยแต่ละ at bat ของ แต่ละทีมเท่ากับครึ่ง inning INTERFERECE a) การรบกวนของฝ่ายรุก คือการกระทำของทีมขณะเป็น ฝ่ายตีรบกวนด้วยการกีดขวาง บัง ขัดขวาง หรือพยายาม ทำให้เกิดความสับสนให้กับผู้เล่นฝ่ายรับ ถ้าผู้ตัดสินขาน out batter - runner หรือ runner จากการรบกวน runner อื่น ๆ จะต้องกลับเบสเดิมครั้งสุดท้ายที่ครอบ ครองอยู่ ในกรณีการรบกวนเกิดจาก batter - runner ผู้เล่น runner อื่นๆ จะต้องกลับเบสเดิมครั้ง สุดท้ายในขณะที่ pitch b) การรบกวนของฝ่ายรับ คือการกระทำของฝ่ายรับที่บัง หรือป้องกันไม่ให้ batter ตีลูกจากการ pitch c) การรบกวนจากผู้ตัดสินเกิดขึ้นเมื่อ 1) เมื่อผู้ตัดสินบัง กีดขวาง หรือป้องกันการขว้างของ catcher ที่ป้องกันการขโมยเบส หรือ 2) เมื่อ fair ball ถูกผู้ตัดสินใน fair territory ก่อนที่ ลูกจะผ่านผู้เล่นฝ่ายรับ d) การรบกวนจากผู้ดูเกิดขึ้นเมื่อผู้ดูออกมานอก อัฒจันทร์หรือเข้าไปในสนามแข่งขันและถูกลูกบอลที่อยู่ ในการเล่นการรบกวนที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นdead ball LEAGUE คือ ที่รวมของสโมสรต่าง ๆ มารวมกันจัดเตรียมโปรแกรม การแข่งขันเพื่อหาทีมที่ชนะเลิศ LEAGUE PRESIDENT คือ นายกผู้ทำหน้าที่นำกติกามาบังคับใช้ควบคุมการแข่งขัน LEGAL คือ สิ่งทีถูกต้องตามกติกานี้ LIVE BALL คือ ลูกบอลที่กำลังดำเนินอยู่ในการแข่งขัน LINE DRIVE คือ ลูกบอลที่ตีแล้วพุ่งตรงจากไม่ตีไปสู่ฝ่ายรับโดยไม่ถูกพื้น MANAGE ผู้จัดการทีม คือบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งจากสโมสรให้ทำหน้าที่ รับผิดชอบควบคุมทีมเข้าแข่งขันและเป็นตัวแทนของทีม ที่จะติดต่อสื่อสารกับผู้ตัดสินและทีมตรงข้าม ผู้เล่นอาจ จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมได้ a)สโมสรต้องระบุชื่อผู้จัดการทีมต่อนายกของ League หรือผู้ตัดสินเพลตไม่น้อยกว่า 30 นาทีก่อนการ แข่งขัน b) ผู้จัดการทีมจะต้องแนะนำตัวต่อผู้ตัดสินในฐานะผู้ แทนที่ถูกต้องของทีมที่จะทำหน้าที่ตามกติกา ผู้จัดการ ทีมจะทำหน้าที่ควบคุมความประพฤติของทีมให้ปฏิบัติตาม กติกา และปฏิบัติตามผู้ตัดสิน c) ถ้าผู้จัดการทีมไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสนาม จะต้องตั้งผู้ เล่นหรือผู้ฝึกสอนทำหน้าที่ตามสิทธิ์และความรับผิดชอบ แทน ถ้าผู้จัดการทีมไม่ได้แต่งตั้งผู้แทนก่อนออกจากสนาม ผู้ตัดสินเพลตจะตั้งสมาชิกของทีมคนหนึ่งคนใดทำหน้าที่ แทนผู้จัดการทีม OBSTRUCTION คือ การกระทำของฝ่ายรับผู้ซึ่งไม่ได้ครอบครองลูกบอลหรือ ไม่ได้อยู่ในท่าทางที่จะรับลูกบอล ทำการกีดขวาง ขัดขวาง การเคลื่อนที่ของ runnerถ้าผู้เล่นฝ่ายรับจะรับลูกบอลจาก การขว้าง โดยลูกบอลลอยตรงมาอยู่ใกล้พอที่จะรับลูกนั้นได้ จะพิจารณาว่าที่อยู่นั้นอยู่ในตำแหน่งที่จะรับลูกบอล หลังจาก ฝ่ายรับได้พยายามรับลูกบอลและรับพลาด จะไม่อยู่ใน ตำแหน่งที่จะรับลูกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น พุ่งรับลูกที่พลาด และได้ติดตามรับ ลูกนั้นมีผลทำให้ runner เคลื่อน ที่ไปได้ช้าลงกรณีเช่นนี้ฝ่ายรับจะอยู่ในฐานะกีดขวาง OFFENSE คือ ทีมหรือผู้เล่นคนอื่น ๆ ของฝ่ายตี OFFICIAL SCORER OUT คือ ผู้เล่นฝ่ายรุกที่ถูกทำให้ออกจากการแข่งขัน OUTFIELDER คือ fielder ที่อยู่ในตำแหน่งสนามส่วน outfield OVERSLIDE คือ การกระทำของผู้เล่นฝ่ายรุกเมื่อสไลด์เข้าเบส ซึ่งจาก แรง momen -tum ทำให้เลยเบสไป นอกจากที่ได้รับสิทธิ์ให้ครอบ ครอง เบส 1 PENALTY คือ การลงโทษผู้กระทำผิดกติกา PERSON คือ ผู้เล่นหรือผู้ตัดสินไม่ว่าจะเป็นส่วนของร่างกาย เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์ PITCH คือ ลูกบอลที่ส่งจาก pitcher ไปยัง batter PITCHER คือ ผู้เล่นฝ่ายรับที่กำหนดให้เป็นผู้ pitch ลูกไปยัง batter PIVOT FOOT คือ เท้าที่แตะอยู่บน pitcher plate ในขณะที่ pitch PLAY คือคำสั่งของผู้ตัดสินที่สั่งเริ่มต้นการแข่งขัน หรือ เริ่มเล่นต่อภายหลัง dead ball QUICK RETURN คือ การเจตนาอย่างชัดแจ้งที่จะ pitch อย่างเร็วขณะที่ batter ยังไม่พร้อมทำให้เสียหลัก อันเป็นการ pitch ที่ ผิดกติกา RETOUCH คือ การกระทำของ runner ที่จะกลับมาแตะเบสเมื่อจำ เป็นตามกติกา RUN OR SCORE คือ การทำคะแนนของผู้เล่นฝ่ายรุกจาก batter เป็น batter-runner ไปแตะเบส 1 เบส 2 เบส 3 และ home plate ตามลำดับ RUN-DOWN คือ การกระทำของฝ่ายรับที่จะ put out runner ที่อยู่ ระหว่างเบส RUNNER คือ ผู้เล่นฝ่ายรุกที่ได้ครอบครองเบสแล้ว advance หรือ แตะหรือกลับไปที่เบสต่าง ๆ SAFE คือ การขานของผู้ตัดสินที่ runner มีสิทธิ์ครอบครองเบส จากการที่กำลังพยายามเข้าครอบครอง SET POSITION คือ ท่าตั้งต้นท่าหนึ่งจากสองท่าของการ pitch ที่ถูกต้อง SQUEEZE PLAY คือ คำที่ใช้เรียกการเล่นเมื่อมี runner อยู่ที่ เบส 3 พยายามที่จะทำ run จากการ bunt ของผู้เล่นคนอื่น STRIKE คือ การขานของผู้ตัดสินจากการ pitch ที่ถูกต้อง ซึ่งเกิดจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ a) batter ตีด้วยการ swing ไม้ไม่ถูกลูก b) batter ไม่ได้ swing ไม้แต่ลูกบอลได้ผ่านเข้า strike zone c) batter ตีลูก foul ball เมื่อ batter มีน้อยกว่า 2 strike d) batter bunt เป็น foul ball e) ลูกถูกตัว batter ขณะตีผิด f) ลูกถูกตัว batter ขณะที่ลูกลอยอยู่ใน strike zone g) ลูก foul tip STRIKE ZONE คือ พื้นที่เหนือ home plate จากจุดกึ่งกลางระหว่างจุดสูง สุดของหัวไหล่และจุดสูงสุดของกางเกงถึงจุดสูงสุดของ หัวเข่าจาก ยีนของ batter ขณะที่เตรียมตี SUSPENDED GAME คือ คำที่ใช้เรียกการแข่งขันซึ่ง กำหนดให้แข่งขันต่อจนจบ ภายหลังวันแข่งขันเดิม TAG คือ การกระทำของฝ่ายรับแตะเบสด้วยร่างกาย ด้วยมือหรือ ถุงมือขณะที่ครอบครองลูกบอลไว้ได้อย่างสมบูรณ์หรือ แตะตัว runner ด้วยลูกบอลหรือมือ หรือถุงมือที่ครอบ ครองลูกบอลไว้ได้ THROW คือ การกระทำที่ส่งลูกบอลออกไปจากมือหรือแขนไปยังเป้า หมายซึ่งแตกต่างจากการ pitch TIE GAME การมีคะแนนเท่ากัน คือเมื่อการเล่นปรกติและทั้งสองทีมมี run เท่ากัน TIME เวลานอก คือการประกาศของผู้ตัดสินหยุดการแข่งขันใน ระหว่าง dead ball TOUCH คือ การสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เครื่องแต่งกาย หรือ อุปกรณ์ของผู้เล่นหรือผู้ตัดสิน TRIPLE PLAY คือ การเล่นของฝ่ายรับที่ทำให้ฝ่ายรุก out 3 คนจากการ เล่นที่ต่อเนื่อง WILD PITCH คือ การ pitch ที่สูง ต่ำ หรือห่างจาก home plate ที่ catcher ไม่สามารถรับลูกบอลได้ WIND-UP-POSITION คือ การ pitch ลูกอีกท่าหนึ่งของ pitcher ที่มา 2.sat.or.th/sportslearning/index3.asp?clicktype=2&senttext=64&pageno=

การเตรียมการของการเล่นเบสบอล

การเตรียมการของการเล่น
ข้อ 3.01 ก่อนเริ่มการแข่งขันผู้ตัดสินปฏิบัติดังนี้ a) ตรวจสิ่งที่จะใช้ในการแข่งขันทั้งหมด และอุปกรณ์ผู้เล่นอย่างเคร่งครัด b) ต้องให้แน่ใจว่าเส้นสนามเห็นชัดเจน c) รับลูกบอลที่จะใช้ในการแข่งขันตามข้อบังคับตามจำนวนและลงรับรองพร้อมนายกสมาคมลูกบอลต้องหอปิดอย่างดีจนกว่าจะถึงเวลาแข่งขัน เมื่อผู้ตัดสินจะเปิดลูกบอลแต่ละกล่อง จะต้องมีพยาน ผู้ตัดสินจะเป็นผู้เดียวที่ตัดสินว่าลูกบอลเหมาะสมที่จะใช้ในการแข่งขัน d) จะต้องแน่ใจว่ามีลูกบอลอย่างน้อย 1 โหลสำรองไว้สำหรับการแข่งขัน e) มีลูกบอลสลับการเล่นอย่างน้อย 2 ลูก และจะต้องนำมาทดแทนให้ได้พอเพียงกับการใช้ตลอดเกมส์ การสลับลูกจะกระทำเมื่อ 1.ลูกบอลถูกตีออกนอกสนาม หรือเข้าไปบริเวณคนดู 2.ลูกบอลถลอกหรืออยู่ในสภาพที่จะเล่นต่อไปไม่ได้ 3.pitcher เรียกร้องที่จะเปลี่ยนลูกบอล ผู้ตัดสินจะไม่ยอมให้สลับลูกบอลให้กับ pitcher จนกว่าเกมส์การเล่นจะหยุด และลูกบอลที่ใช้อยู่เป็น dead ball ภายหลังการขว้างหรือตีลูกบอลออกไปนอกสนาม จะสลับลูกให้ก่อต่อเมื่อ runner ไปถึงเบสที่เขาควรจะได้สิทธิ์ครอบครอง ภายหลังจากการตี home run โดยตีลูกออกนอกสนาม ผู้ตัดสินจะไม่ให้ลูกใหม่กับ pitcher หรือ catcher จนกว่าผู้ตี home run ไปแล้ว ข้อ3.02 ผู้เล่นต้องไม่เจตนาทำให้สีลูกบอลจางเลอะเลือน หรือทำให้ลูกบอลสึก โดยถูกับดิน ทาด้วยสารเคมี เป็นต้นว่า ยางสน ขี้ผึ้ง กระดาษทราย กระดาษไข dugout หรือ coach’s box ข้อ3.07 ผู้ตัดสินเพลตภายหลังจากได้รับแจ้งเปลี่ยนตัว จะต้องประกาศโดยทันที ข้อ3.08 a) ถ้าไม่ได้ประกาศการเปลี่ยนตัวเล่นสำรองจะถือว่าได้เข้าไปในสนามเมื่อ 1) ถ้าเป็น pitcher ได้เข้าไปอยู่ใน pitcher plate 2) ถ้าเป็น batter ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณ batter’ bax 3) ถ้าเป็น fielder ได้เข้าไปถึงตำแหน่งปรกติที่ผู้เปลี่ยนตัวออกครอบครองอยู่ และเริ่มต้นเล่น 4) ถ้าเป็น runner เข้าไปอยู่ในที่ของ runner ที่เปลี่ยนออก b) การกระทำใดๆดังกล่าวข้างบน โดยผู้เล่นที่ไม่ได้ประกาศเปลี่ยนตัว ถือเป็นการถูกต้อง ข้อ 3.09 ผู้เล่นที่แต่งกายชุดแข่งขัน จะต้องไม่ไปรวมกับผู้ดู หรือนั่งที่อัฒจันทร์ก่อนหรือระหว่าง หรือหลังการแข่งขัน ผู้จัดการทีม โคช หรือผู้เล่นจะต้องไม่อยู่กับผู้ดูในระหว่าง หรือก่อนการแข่งขัน ผู้เล่นของทีมตรงข้ามจะต้องไม่ทำตัวเป็นศัตรูกันเวลาที่แต่งกายในชุดแข่งขัน ข้อ 3.10 a) ผู้จัดการทีมของ ทีมเหย้าจะเป็นคนเดียวที่ตัดสินว่า การแข่งขันจะเริ่มได้ หรือจากสภาพอากาศหรือสภาพสนามที่ไม่ดี ยกเว้นการแข่งขันคู่ที่สองของคู่เปิดสนาม ข้อยกเว้น : การแข่งขันรายการอื่นๆเป็นอำนาจของประธานที่จะใช้กติกานี้ในขณะที่การแข่งขัน เพื่อให้แน่ใจว่า ฤดูการแข่งขันเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดและไม่กระทบกระเทือนต่อรายการแข่งขันอื่นๆ b) ผู้ตัดสินเพลตของคู่เปิดสนาม จะเป็นคนตัดสินใจคนเดียวว่า คู่ที่สองจะเล่นได้หรือไม่เนื่องจากสภาพสนามและอากาศ c) ผู้ตัดสินเพลตเป็นคนเดียวที่จะตัดสินใจว่าเมื่อไรการแข่งขันจะหยุดขณะที่การแข่งขันกำลังดำเนินอยู่อันเนื่องมาจากสภาพอากาศและสภาพสนามว่า เมื่อไรจะเริ่มการแข่งขันต่อ จากการหยุดที่ทำการแข่งขัน และเมื่อไรการแข่งขันจะสิ้นสุดภายหลังจากการแข่งขันหยุดชั่วคราว ผู้ตัดสินเพลตจะไม่ขานจบการแข่งขันจนกว่าจะถึงอย่างน้อย 30 นาทีหลังการแข่งขันหยุดไปชั่วคราว ผู้ตัดสินเพลตจะหยุดการแข่งขันต่อไปจนแน่ใจว่าเมื่อไรจะเล่นต่อไปได้ ผู้ตัดสินเพลตจะต้องพยายามทำให้เกมส์การแข่งขันเสร็จโดยสมบูรณ์ มีอำนาจที่จะดำเนินการแข่งขันต่อจากการหยุดครั้งเดียวหรือหลายครั้งในเวลา 30 นาทีและจะขานสิ้นสุดการแข่งขันเมื่อเห็นว่าไม่มีโอกาสที่จะทำการแข่งขันดำเนินต่อไปได้ ข้อ 3.11 ระหว่างการแข่งขันของสองคู่ที่เปิดสนาม หรือเมื่อไรก็ตามที่การแข่งขันหยุดไปชั่วคราวเนื่องจากสภาพสนาม ผู้ตัดสินเพลตจะต้องควบคุมเจ้าหน้าที่ดูและสนามและให้การช่วยเหลือเพื่อทำให้สนามมีความพร้อมที่จะแข่งขันต่อไปได้ บทลงโทษ : เมื่อมีการละเมิดกติกา ผู้ตัดสินเพลตอาจจะปรับโทษให้กับทีมเยือน ข้อ 3.12 เมื่อผู้ตัดสินหยุดการแข่งขันชั่วคราวจะขาน time และขาน play เมื่อเริ่มการแข่งขันต่อ ระหว่างการขาน time และ call จะเป็น dead ball ข้อ 3.13 ผู้จัดการทีมของทีมเหย้าจะต้องแจ้งผู้ตัดสินเพลตผู้จัดการทีมของฝ่ายตรงข้ามถึง ground rule ที่คิดว่ามีความจำเป็น เช่นคนดูล้นสนาม การตีลูกหรือขว้างลูกเข้าไปที่ผู้ดูที่อยู่ในสนาม และกรณีอื่นที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าได้การตกลงจากผู้จัดการทีมฝ่ายตรงข้ามแล้วถือว่าถูกต้อง ถ้าไม่ได้มีการยอมรับ ผู้ตัดสินเพลตจะต้องหาข้อยุติที่เห็นว่าเหมาะสมที่ไม่ขัดกับกติกามาบังคับใช้ ข้อ 3.14 ขณะเป็นฝ่ายตีจะต้องไม่มีอุปกรณ์ของตัวเองวางอยู่ในสนามไม่ว่าจะเป็น fairterritory หรือ foul territory โดยนำอุปกรณ์ต่างๆออกไปไว้ที่ dugout ข้อ 3.15 จะไม่อนุญาตให้บุคคลเข้าไปในสนามระหว่างการแข่งขัน ยกเว้นผู้เล่นและโคชที่แต่งตัวในชุดแข่งขัน ผู้จัดการทีม ช่างภาพที่ได้รับอนุญาต ผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ควบคุมกติกาที่อยู่ในเครื่องแบบ และผู้จับเวลาหรือคนงานอื่นๆที่เป็นเจ้าหน้าที่สนาม ในกรณีที่ไม่อยู่ในเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่รบกวนการเล่นของผู้เล่นนสนามแข่งขัน (ยกเว้นสมาชิกของทีมฝ่ายรุก หรือโคชที่อยู่ใน batter box หรือผู้ตัดสิน) ลูกบอลอยู่ในการแข่งขัน ถ้าการรบกวนเป็นไปโดยเจตนา ให้เป็น dead ball และผู้ตัดสินจะพิจารณาโทษ โดยความเห็นของผู้ตัดสินต้องไม่ลบล้างความผิดที่ได้มีการรบกวน ข้อ 3.16 เมื่อมีผู้ดูรบกวนการแข่งขันจากการตีหรือการขว้างให้เป็น dead ball ทันทีที่เกิดการรบกวน ผู้ตัดสินจะถูกพิจารณาโทษตามความคิดเห็น โดยไม่ลบล้างการกระทำที่ถูกรบกวนการเล่น ข้อตกลงกติกา : ถ้าผู้ชมรบกวนการเล่นด้วยป้องกันการรับลูก fly ball ของฝ่ายรับผู้ตัดสินจะขาน batter out ข้อ 3.17 ผู้เล่นและผู้เล่นสำรองของทั้งสองทีม จะต้องอยู่ใน dugout จนกว่าจะได้เข้าไปเล่นจริง หรือเตรียมตัวที่จะเข้าไปในการแข่งขัน หรือทำหน้าที่โคชเบสที่ 1 หรือเบสที่ 2 ระหว่างแข่งขันผู้ที่อยู่ใน bench ได้เฉพาะผู้เล่น ผู้เล่นสำรอง โคช Trainner และเด็กเก็บไม้ บทลงโทษ : จากการละเมิดกติกา ผู้ตัดสินอาจจะเตือน ไล่ผู้เล่นฝ่ายรุกออกจากสนามแข่งขัน ผู้เล่นที่มีถูกตัดสิทธิ์อนุญาตให้เข้าร่วมในการเตรียมการแข่งขันและนั่งที่ bench ได้ในระหว่างการแข่งขัน แต่จะไม่สามารถร่วมกิจกรรมใดๆได้เป็นต้นว่า warm up กับ pitcher ไม่อนุญาตให้เข้าไปในสนามแข่งขันตลอดเวลาไม่ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใด ข้อ 3.18 ทีมเหย้าจะต้องจัดตำรวจป้องกันอย่างเพียงพอ ถ้ามีบุคคลภายนอกเข้าไปในสนามระหว่างการแข่งขันและรบกวนการเล่น ทีมเยือนจะปฏิเสธการเล่นได้ จนกว่าสนามจะอยู่ในสภาพเรียบร้อย บทลงโทษ : ถ้าสนามไม่เรียบร้อยปลอดภัย ด้วยเหตุผลของเวลาเกิน 15 นาที ภายหลังจากทีมเยือนปฏิเสธการแข่งขัน ผู้ตัดสินอาจปรับให้ทีมเยือน(ประเภทอาชีพ
ที่มา 2.sat.or.th/sportslearning/index3.asp?clicktype=2&senttext=64&pageno=

ประวัติกีฬาเบสบอล


อเล็กซานเดอร์ คาร์ตไรต์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา

อเล็กซานเดอร์ คาร์ตไรต์ผู้ตั้งสโมสรเบสบอลสมัยใหม่
อเล็กซานเดอร์ คาร์ตไรต์ (Alexander Joy Cartwright, 17 เมษายน พ.ศ. 236312 กรกฎาคม พ.ศ. 2435) วิศวกรชาวอเมริกันผู้คิดค้นกีฬาเบสบอล สมาชิกทีมกีฬา "นิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์" ซึ่งเป็นกีฬาที่ใช้ไม้ตีลูกบอล เดิมเรียก "ทาวน์เกม"

[แก้] ชีวิตและงาน
ในปี พ.ศ. 2388 คาร์ตไรต์และกรรมการในสโมสรนิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์ได้ร่างกฏการเล่นขึ้นใหม่ แปลงการเล่นกีฬาในสนามกลางแจ้งนี้ให้ละเอียดอ่อนและให้น่าสนใจสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น ทีมสโมสรนิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์ได้ทำการแข่งขันโดยใช้กฎใหม่ที่ร่างขึ้นนี้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2389 ผลคือทีมสโมสรนิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์แพ้ 23-1
ในปี พ.ศ. 2392 คาร์ตไรต์ได้ย้ายจากนิวยอร์กไปทำเหมืองทองคำในแคลิฟอร์เนีย หลังการล้มป่วย คาร์ตไรต์ได้อพยพไปอยู่ฮาวายกลายเป็นพลเมืองฮาวายในเวลาต่อมาและประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ที่โฮโนลูลูนี้เองที่คาร์ตไรต์ได้ตั้งสโมสรเบสบอลขึ้นเป็นครั้งแรกโดยรวมทีมเบสบอลต่างๆ ที่เขาสร้างขึ้นทั่วฮาวายเข้าร่วมแข่งขัน สโมสรฮาวายของคาร์ตไรต์กลายเป็นแบบอย่างของสโมสรเบสบอลสมัยใหม่ต่างๆ ที่แพร่หลายเป็นกีฬาเป็นที่นิยมกันมากที่สุดชนิดของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน
อเล็กซานเดอร์ คาร์ตไรต์ ได้รับการบรรจุชื่อไว้ใน "หอเกียรติยศเบสบอล" เมื่อปี พ.ศ. 2481
ที่มา : http://www.th.wikipedia.org/

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ web blog กีฬา โดย นาวสาวสุภัทร ดอนพรไพร

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ web blog กีฬา โดย นาวสาวสุภัทร ดอนพรไพร